วงศ์ยางนา (Family Dipterocarpaceae)

พันธุ์ไม้วงศ์นี้ส่วนมากเป็นไม้ต้นขนาดใหญ่  และมีคุณค่าทางเศรษฐกิจมากอีกวงศ์หนึ่ง ลำต้นมักมีชัน หรือน้ำยาง มีกลิ่นเฉพาะตัว พบทั่วไปทั้งในที่แห้งแล้งและในป่าดงดิบ  ใบ เดี่ยวออกสลับเส้นแขนงใบมักขนานกันเป็นระเบียบ และมีเส้นขนานเล็ก ๆ เชื่อมระหว่างเส้นแขนงคล้ายขั้นบันได ยกเว้นในสกุลพันจำ  (Vatica) ดอก สมบูรณ์เพศ มีกลิ่นหอม กลีบรองดอก ๕ กลีบ และมักจะพัฒนาต่อไปเป็นปีกผล กลีบดอก ๕ กลีบ โคนกลีบมักเชื่อมติดกัน มักบิดและขอบของกลีบเรียงเกยซ้อนกันคล้ายกังหันลม เกสรเพศผู้มีมาก อาจเรียงกัน ๑-๒-๓ ชั้น รังไข่จมอยู่ในฐานของดอกเพียงเล็กน้อย มี ๓ ช่อง แต่ละช่องมีไข่อ่อน ๒ หน่วย ก้านชูเกสรเพศเมีย ๑-๓ ก้าน ผล ชนิดแห้ง แข็ง และไม่แตก โดยมากมักมีปีก

ข้อมูลทางอนุกรมวิธาน

     Kingdom Plantae (อาณาจักรพืช)
          Phylum Tracheophyta (พืชมีท่อลำเลียง)
               Class Magnoliopsida (พืชใบเลี้ยงคู่)
                    Order Malvales
                         Family Dipterocarpaceae (วงศ์ยางนา)

จำแนกได้ ๗ สกุล ๑๖ ชนิด คือ

๑. สกุล Dipterocarpus มี ๓ ชนิด ดังนี้ Dipterocarpus gracilis, Dipterocarpus retusus, Dipterocarpus turbinatus
๒. สกุล Dryobalanops มี ๑ ชนิด ดังนี้ Dryobalanops aromatica
๓. สกุล Hopea มี ๖ ชนิด ดังนี้ Hopea chinensis, Hopea hainanensis, Hopea hongayensis, Hopea micrantha, Hopea reticulata, Hopea shingkeng
๔. สกุล Parashorea มี ๑ ชนิด ดังนี้ Parashorea chinensis
๕. สกุล Shorea มี ๒ ชนิด ดังนี้ Shorea assamica, Shorea robusta
๖. สกุล Vateria มี ๑ ชนิด ดังนี้ Vateria indica
๗. สกุล Vatica มี ๓ ชนิด ดังนี้ Vatica guangxiensis, Vatica lanceifolia, Vatica mangachapoi

อ้างอิงจาก
๑. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
๒. Catalogue of Life - 2013 Annual Checklist